Breaking News

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2569 ชะลอลงมาอยู่ที่ 1.6% จากอุปสงค์ต่างประเทศและในประเทศที่ชะลอลง และยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง เทียบกับที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.0% ในปี 2568 จากอุปสงค์ต่างประเทศและในประเทศที่ชะลอลง ส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 คาดว่าจะหดตัวส่งผลทำให้แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยลดลง การท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ในขณะที่การบริโภคของครัวเรือนได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ลดลงตามข้อจำกัดทางการคลัง มอง กนง. ลดดอกเบี้ยต่ออีก 1 ครั้ง อีกทั้งยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง .... ส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 คาดว่าจะหดตัวส่งผลทำให้แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยลดลง การท่องเที่ยวที่จะยังฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ ในขณะที่การบริโภคของครัวเรือนที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง ส่วนหนึ่งจากแรงหนุนจากการใช้จ่ายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาจลดลงตามข้อจำกัดทางการคลัง โดยคาด กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายต่ออีก 1 ครั้ง ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน

กคช. ร่วมงาน“Thailand Friendly Design & Tourism for All Expo 2025

กคช. ร่วมงาน“Thailand Friendly Design & Tourism for All Expo 2025
1
เขียนโดย Intrend online 2025-12-15

กคช. ร่วมเวทีเสวนาอารยสถาปัตย์ รองรับสังคมผู้สูงวัย “Thailand Friendly Design & Tourism for All Expo 2025”

การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เข้าร่วมเวทีเสวนาในงาน “Thailand Friendly Design & Tourism for All Expo 2025 : มหกรรมอารยสถาปัตย์ นวัตกรรมสุขภาพ รองรับสังคมผู้สูงวัย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 9” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนำเสนอแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ตอกย้ำบทบาทองค์กรรัฐด้านที่อยู่อาศัยในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทุกช่วงวัย ท่ามกลางบริบทสังคมไทยที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ

 


นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติขับเคลื่อนภารกิจภายใต้นโยบาย “การเคหะเพื่อสังคมและคนทั้งมวล” โดยยึดหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เป็นแกนกลางของการออกแบบและพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างปลอดภัย เท่าเทียม และมีศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก หรือกลุ่มเปราะบาง

ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้พัฒนาและจัดหาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนทั่วประเทศแล้วกว่า 755,000 หน่วย ซึ่งถือเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่สะท้อนความมุ่งมั่นขององค์กรในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ดำเนินการตามแนวคิดอารยสถาปัตย์ (Universal Design) อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1–2, อาคารเช่าจังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ระยะที่ 1, อาคารเช่าจังหวัดเพชรบุรี (โพไร่หวาน), อาคารเช่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (โรจนะ) และเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา)

 


โครงการต่าง ๆ ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งานของคนทุกช่วงวัย ผ่านองค์ประกอบด้านอารยสถาปัตย์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน อาทิ ทางลาดและทางสัญจรที่ปลอดภัย พื้นผิวลดการลื่น ห้องน้ำเพื่อทุกคน ป้ายสัญลักษณ์และอักษรเบรลล์ รวมถึงระบบแสงสว่าง กล้องวงจรปิด และการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว

ควบคู่กันนี้ การเคหะแห่งชาติยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ลดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อาทิ การใช้วัสดุประหยัดพลังงาน วัสดุที่ช่วยลดความร้อน การออกแบบอาคารให้ใช้แสงธรรมชาติและการระบายอากาศที่เหมาะสม รวมถึงการจัดการพื้นที่สีเขียวและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยสามารถตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 


สำหรับทิศทางในปี 2569 การเคหะแห่งชาติจะเดินหน้าภายใต้แนวคิด “Go Green & Growth Together for All with Innovation” โดยยกระดับอารยสถาปัตย์ให้เป็นมาตรฐานกลางของการพัฒนาที่อยู่อาศัยกว่า 21,000 หน่วยทั่วประเทศ ควบคู่แนวคิด NHA Eco-Village และการพัฒนาโครงการนำร่อง Senior Complex เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุแบบครบวงจร

นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติยังได้รับรางวัล Friendly Design Awards 2025 ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการขับเคลื่อนงานด้านอารยสถาปัตย์อย่างต่อเนื่อง และเป็นเครื่องยืนยันว่าทิศทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยขององค์กรสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและความต้องการของสังคมไทยในอนาคต

นายทวีพงษ์กล่าวทิ้งท้ายว่า “การเคหะแห่งชาติจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้หลักอารยสถาปัตย์อย่างต่อเนื่อง ควบคู่การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ที่อยู่อาศัยของรัฐเป็นพื้นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง ใช้งานได้อย่างปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียม พร้อมก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยอย่างยั่งยืน”
 


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะพาเร้นส์ จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา The Parents ได้มีการเพิ่มให้บริการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ทั้งบริการสำหรับผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยหลังการผ่าตัดที่จำเป็นต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟูและส่งเสริมสุขภาพ ส่งผลให้มีจำนวนผู้รับบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน The Parents ต้องเพิ่มบริการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งบริการอื่น ๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับความพึงพอใจสูงสุด เช่น เพิ่มจำนวนกิจกรรมสันทนาการ จากสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพิ่มเป็น 5 ครั้ง โดยจัดให้มีนักกิจกรรมบำบัดที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

นอกจากนี้แล้วยังมีบริการใหม่ ๆ เช่น ได้นำนวัตกรรมบำบัดด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อยกกระชับ รวมทั้งบริการ Anti aging โดยมีให้เลือกทั้งการดริปวิตามิน (IV Drip) การฉีดวัคซีนพลาเซนต้า) เพื่อฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลฮอร์โมน ซึ่งมักทำโดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพกหรือเข้าเส้นเลือด และการฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคที่เกี่ยวข้องจากเชื้อ HPV รวมทั้งบริการนวดแผนไทยและบริการแพทย์แผนจีนให้ลูกค้าได้เลือกใช้บริการ ที่สำคัญยังบริการฝังฮอร์โมนซึ่งเป็นการบำบัดด้วยฮอร์โมน (Hormone Therapy) โดย พญงรัชนี สาธรสันติกุล ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการบำบัดด้วยฮอร์โมน ทั้งนี้ในอนาคต The Parents ยังมีความพร้อมที่จะพัฒนาและเพิ่มบริการต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างครบถ้วน

สำหรับผู้ที่สนใจบริการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THE PARENTS WELLNESS AND REHABILITATION CENTER ตั้งอยู่เลขที่ 88 ถนนราษฎร์พัฒนา หรือซอยมิสทีนเดิม ประมาณ 700 เมตรจากถนนรามคำแหง หากสนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลได้ที่ โทรศัพท์ 02-091-1956, 095-167-1839, 081-248-0962 หรือติดต่อผ่านช่องทาง Line@ : @tmnc และ FacebookPage https://www.facebook.com/theparentsbytmnc หรือ www.theparents.com